บทที่ 4 การโปรโมท

บทที่  4 การโปรโมท

หลังจากที่เราได้ Keyword มาแล้วเราก็จะมารู้วิธีการโปรโมท กันนะคะว่าเราเองสามารถจะโปรโมทได้ที่ไหนบ้าง

1. PPC ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Google adword, Adcenter ของ Microsoft, และ Ad ของ Yahoo จำไม่ได้หละว่าชื่ออะไร ของติดไว้ก่อน การขาย Clickbank อนุญาติให้ผู้โปรโมทยิงเข้าหน้าของ CB โดยตรงได้ เอาง่าย ๆ ไม่ต้องไปสร้างเว็บอะไรมากมาย  จะขายอะไร ก็เลือกเอา ส่วนนี้ได้เงินเร็วมากเพราะไม่ต้องรอเวลา แต่เราเองก็ต้องบริหารต้นทุนให้ดี งั้นเจ้งแน่  หรือว่าจะสร้าง Landing page มาเพื่อยิง PPC เข้าก็ได้ เพิ่มเติมนิดนึ่งนะคะ เท่าที่ได้ยินมา Google Adword ไม่อนุญาติให้ผู้ที่ไมใช่เจ้าของสินค้ามาลง Adword ฉะนั้นก็ลองใช้ Adcenter ดูนะ

2. มาจากเว็บไซต์ ก็สร้างเว็บไซต์มาขายของนั่นแหละ  อันนี้เราต้องทำ SEO ซะหน่อย

3.เว็บบอร์ดต่างๆ  ถ้าขาย internet Marketing ก็มาใส่ลิ้งที่ Thaiseo ประมาณนี้

4.แหล่งที่สามารถจะนำพา Traffic ได้มาตรงกับชนิดของสินค้า มีเยอะมาก อันนี้ลองค้นหาใน Google ง่ายดี

5.เว็บไซต์ให้บริการ VDO

6.Email Marketing ไปซื้อ Email ของลูกค้าจาก ตัวแทน CPA ลงทุนหน่อยแต่ก็คุ้ม โอกาสขายได้ 60% เลยทีเดียว

บทที่ 3 Keyword

ทที่ 3  Keyword  
- การหา Keyword

สำหรับเรื่องของ Keyword ของ Clickbank มีวิธีการหาหลายวิธีอย่างมาก ๆ เดี๋ยวจะพยายามเพิ่มเรื่อย ๆนะคะ แต่วันนี้จะเล่าการหาแบบธรรมดาก่อนเหมาะสำหรับมือใหม่ ก่อนจะหา Keyword อยากจะเล่าอะไรให้ฟังสักนิดหนึ่งนะคะ

Keyword ของ Clickbank เป็น Keyword ที่ดิ้นได้ หมายความว่า สินค้าตัวเดียวกัน แต่ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ Keyword เดียวกันมาขายสินค้า ความสนุกของการขาย Clickbank คือการหา Keyword นั่นแหละ ถ้าหา Keyword ได้ดีคู่แข่งมันก็น้อย ทำอันดับก็ง่า ย ฉะนั้นอยากให้ใส่ใจการหา Keyword มาก ๆ เหมือนกัน

พอพูดไปก็อดจะ เปรียบเทียบกับ Amazon ไม่ได้จริง amazon วิธีการขายง่ายอย่างมาก ๆ คือ Keyword มันดิ้นได้ไม่เยอะ เพียงแค่มีวิธีทำให้อันดับดี ๆ ได้ก็สามารถจะขายได้แล้ว

มาดูวิธีธรรมดาในการหา Keyword กันนะคะ

1.ขั้นตอนแรกเราก็เลือกสินค้าที่เราจะขายก่อน ส่วนวิธีเบื้องต้นก็ตามไปอ่านโพสก่อนนะคะ เอาเป็นว่าเลือกสินค้าตัวนี้เลยแล้วกัน



แล้วก็คลิกเข้าไป

จะเจอหน้าแบบนี้



บอกอีกครั้งนะคะวิธีเป็นวิธีการหา Keyword แบบ Basic มาก ๆนะคะ
จาก นั้นเพือน ๆ อาจจะ View soure ดู Keyword ดูว่าเขาใช้อะไร แต่สำหรับผู้เขียนเอง มองเห็นหละจะใช้ Keyword อะไร ตามรูปเลย คือ " Weight Loss "  ทีนี่เราเองก็ได้ Keyword ที่เกี่ยวกับสินค้าแล้วหละ แต่รู้สึกไหมว่ามันกว้างไป งั้นเราไปที่ Google adword tools กันดีกว่า



1.ใส่ Keyword เข้าไป
2.เลือกทุกประเทศ เพราะขายมันทั่วโลกเลย
3.ภาษาอังกฤษ

จากนั้นก็ค้นหาเราก็จะได้ Keyword มาเป็นร้อยเลย


ไป วิเคราะห์กันต่อนะ คิดง่าย ๆ คนมันอยากจะซื้อของต้องใช้คำไหน คิดเป็นไทยแล้วจะ อ๋อ ตัวอย่าง "ใส่ How to ไปข้างหน้า Keyword หรือ หลัง "

quick weight loss
diets for quick weight loss
quick weight loss diets
quick weight loss diet
quick weight loss diet plan
quick and easy weight loss
quick weight loss plan
quick weight loss program
quick weight loss diets that work
quick weight loss tricks

ในที่สุดก็ได้มาแล้ว สำหรับใครที่มี Market samuri ก็อาจจะเอา Keyword เหล่านี้ไปเช็คก่อนก็ได้ว่า เราสามารถจะทำอันดับได้ไหม

สม มุติว่าอ็อฟเลือก Key นี้แล้วกันนะ คือว่ากระบวนการตรงนี้จะผ่านการค้นหาว่า "diets for quick weight loss" มีคนค้นหาเยอะพอสมควรและสามารถจะทำอันดับได้

ต่อไปเราก็หา Nich Keyword กันนะคะ โดยวิธีง่าย ๆ เลย




เห็นไหมได้ Nich Keyword ออกมาแล้ว ต่อจากนี้ก็ไปสร้าง Landing page กันต่อไป 

บทที่ 2 เลือกสินค้า

บทที่ 2  เลือกสินค้า  
 - ศึกษาตลาดของสินค้าที่จะขาย
 - สอนการเลือกสินค้า



- ศึกษาตลาดของสินค้าที่จะขาย

ตรงนี้จะไม่ขอพูดเรื่องหลักวิชาการอะไรมากมายนะคะ เอาเป็นว่าอย่างนี้เลยแล้วกัน ยึดหลักนี้เลยนะ

1. สินค้าตัวนั้นจำเป็นหรือเปล่า  ลองเลือกดูสินค้าที่มีความจำเป็นดูจะสามารถขายได้อย่างง่าย คิดง่าย ๆ นะคะ อะไรจำเป็นสำหรับการเรียนภาษา อะไรจำเป็นสำหรับการแต่งงาน อะไรบ้างจำเป็นสำหรับการรักษาสิว เลือกเอานะ
2.เรื่องของเวลา อันนี้แอบจำมานะ เขาบอกว่าเลือกสินค้าที่มีเรื่องเวลามีบีบบังคับจะดีอย่างมากๆ เพราะลูกค้าจะซื้อทันที จริงไหมก็คิดเอานะ
3.ราคา  เรื่องของราคาอย่าสูงมากนักนะ เพราะสินค้าดาวน์โหลดราคาแพงมากจะขายได้ยากมาก เพราะ ว่าลูกค้าคิดว่าไม่คุ้มจริง ๆ เพราะมันจับต้องไม่ได้
4.ต้องดูด้วยว่าสินค้าอะไรขายดี [สามารถจะดูได้จากสถิติที่เราขายและก็เว็บของ Clickbank เอง สังเกตุแล้วจะเห็นนะ]
5.อัน นี้เป็นการทำส่วนตัวของผู้เขียนเองนะ ผู้เขียนไม่ได้ขายสินค้ามากมายหลายชิ้นอะไรหรอก เลือกเอาแต่เน้น แต่ก็รายได้พอกินคะ ไม่เหนื่อยและลงทุนเยอะด้วย


เรามาดูการเลือกสินค้ากันนะคะ Step By Step

1.เข้าไปที่ Clickbank เข้าสู่ระบบให้เรียบร้อยก่อนนะ และก็มาที่ Market Place
2.แล้ว ก็เลือกเอาหมวดหมู่ใดหมวดหมู่หนึ่งก่อนเลย ตรงนี้เพื่อน ๆ ก็เลือกสินค้าหมวดตามที่ต้องการนะคะ ส่วนตัวผู้เขียนเลือกหมวดหมู่ Education เกี่ยวกับการศึกษา และหมวดหมูย่อย K-12
ตามภาพเลย


ที่นี้เราเองก็เลือกตามนี้นะจ๊ะ เดี๋ยวจะอธิบาย


เลือก Popularity เพื่อให้แสดงสินค้าตามความนิยม (ความนิยมตรงนี้หมายถึงมีผู้ที่นำสินค้าไปโปรโมท ไม่ได้หมายถึงสินค้าขายดี) แต่ก็สามารถจะบอกเราได้ว่ามันต้องขายดีสิ คนถึงเลือกจะขายเยอะ อิอิ
ส่วนที่ 2 เลือก High to Low เพื่อให้แสดงจากมากไปน้อย(ความนิยมมากไปหาน้อย)

หลังจากนั้นเราก็มาดูที่สินค้านะคะว่ามีอะไรบ้างให้เราตัดสินใจ หลังจากที่เราเลือกไปตามขั้นต้นแล้ว เราก็มาดูที่สินค้ากัน



การเลือกสินค้าที่จริงเขาไม่ได้ดูอะไรมากมายหรอก เขาดู3 อย่างแค่นี้นะ
1.ราคา อย่าสูงมากจะขายไม่ออก
2.ค่าคอมิสชั่น เอาให้คุ้มหน่อยก็ดี
3.% ของผู้ที่นำสินค้าตัวนี้ไปโปรโมท (ยิ่งเยอะยิ่งดี เหตุผลบอกไปแล้ว)

บทที่ 1 รู้จักการ Clickbank

บทที่ 1  รู้จักการ Clickbank



   สวัสดีเพื่อน ๆ นะคะ ไม่นึกว่าจะมีคนมารอฟังขนาดนี้ เอาเป็นว่าถ้าเขียนไม่ได้ดีอย่างไรก็อย่าว่ากันนะ มาเริ่มหัวข้อแรกกันเลยนะคะ

- มารู้จัก Clickbank


ทุกๆ คน อาจจจะเคยรู้จักมานานแล้วนะคะว่าเป็นอย่างไร แต่มาฟังอีกครั้งนะคะ เผื่อว่าใครที่ยังไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร เอาให้เข้าใจตั้งแต่แรกเลยดีกว่า

Clickbank คือ เว็บขายสินค้าที่เป็นสินค้าประเภทดาวน์โหลด พูดง่าย ๆ คือเป็นสินค้าประเภทดิจิตอลนั่นเอง  โดยโครงสร้างของเว็บ Clickbank เอง สามารถจะแบ่งได้ดังนี้นะคะ

1.Affiliates คือ พวกเรานั่นแหละที่นำสินค้าของ Clickbank ไปโปรโมทเพื่อจะขายและจะได้รับค่าคอมมิสชั่น ก็คือสูงสุดที่ 75% เลยทีเดียว หรือเข้าใจง่าย ๆ คือ ถ้าเราสามารถจะขายสินค้าได้ในราคา 100$ เราเองก็จะได้รับ 75$ ถือว่าสูงมากทีเดียว
2.Vendors  คือ เจ้าของสินค้าที่ต้องการนำสินค้าของตัวเองไปขาย ในส่วนนี้ถ้าเพื่อน ๆเอง มีสินค้า ก็สามารถจะนำไปขายได้นะคะ โดยไปสมัครสมาชิกที่ Clickbank โดยแสดงความจำนงสมัครเป็น Vender เสียค่าธรรมเนียมครั้งแรกไม่แพงมากหรอกคะ ประมาณ $49.95 ถ้าจำไม่ผิดนะ แต่ว่าเชื่อไหมว่าคุณเองเสียเงินครั้งแรกในราคานี้ กระบวณการต่อไป ถ้าสินค้าของคุณสามารถจะสร้างยอดขายได้ คุณจะได้รับเงินในการขายอย่างต่อเนื่องโดยที่ไม่ต้องลงทุนอะไรมากมาย คือ มีคนนำสินค้าของคุณไปโปรโมทต่อนั่นเอง มันช่างดีเสียเหลือเกิน
3.ตัวเว็บ Clickbank เอง สำหรับเว็บไซต์ของ Clickbank ไม่ได้เป็นที่ขายสินค้านะคะ เป็นเพียงที่รวบรวมรายชื่อสินค้าเท่านั้น การซื้อขายจะเกิดที่เว็บของ Vender ฉะนั้นจงได้เปลี่ยนความคิดซะว่า หน้าตาของ Clickbank ไม่ได้เรื่องเอาซะเลย เข้าใจกันนะ


กฎระเบียบ  

ไม่ขอเล่าละเอียดนะคะ เอาเป็นว่าพอเข้าใจ เพราะว่ากฎของเขาไม่ได้มากมายอะไร

1.ทำอย่างไรก็ได้ให้ขายได้ คุณเองจะใช้วิธีไหนก็ได้ ทั้ง Google adword,Website หรือว่าอย่างอื่นที่สามารถจขายได้เอาเลย